ในการใช้ยาแนวในห้องน้ำนั้น ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า แต่ละตำแหน่งของห้องน้ำ หรือชิ้นส่วน สุขภัณฑ์ แต่ละอย่างนั้น มีการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน นั่นจึงทำให้การใช้ยาแนวในการรีโนเวทห้องน้ำนั้น ต้องใช้วัสดุในการยาแนวต่างชนิดกันด้วย แล้วชิ้นไหน ควรใช้ชนิดไหน ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักและเข้าใจในยาแนวแต่ละชนิดกันก่อน
หากพูดถึงยาแนวนั้น เราอาจจะเคยเห็นยาแนวที่เป็นทั้งผงแป้งในถุงคล้ายๆปูน และแบบเป็นกระบอกพลาสติกที่เมื่อทำการบีบออก จะเป็นลักษณะของเหลวข้นๆหนืดๆคล้ายยาสีฟัน ซึ่งทั้งสองชนิดนั้น การใช้งานและคุณสมบัติก็แตกต่างกันด้วย
ยาแนวแบบผง (ปูนยาแนว)
ยาแนวแบบผง (ปูนยาแนว) เป็นยาแนวที่มีส่วนผสมของซีเมนต์เนื้อละเอียด ผงสี และสารพิเศษต่าง ๆ วิธีการใช้คือ การนำไปผสมกับน้ำ กวนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว จากนั้นทำการป้ายลงบนร่องระหว่างกระเบื้องห้องน้ำ หรือร่องที่ต้องการยาแนวให้มิดชิด ทำการปาดให้ยาแนวนั้นอัดในร่องให้เต็ม จากนั้นจึงนำฟองน้ำมาทำความสะอาดคราบส่วนเกิน ซึ่งจากขั้นตอนที่ให้มานั้น จะเห็นได้ว่าสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน อุปกรณ์ไม่เยอะ สามารถประยุกต์ใช้ได้กับอุปกรณ์ที่หาได้ในบ้านทั่วไป ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็ว แถมเมื่อแห้งตัวแล้ว ตัวยาแนวจะมีความแข็ง สามารถทนต่อการขัดพื้น ทำความสะอาดได้หลากหลายครั้ง แต่ก็มีข้อจำกัดในการใช้ยาแนวแบบผงเช่นกัน เนื่องจากยาแนวแบบผงนั้น เมื่อแห้งตัวแล้วจะมีความแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่น จึงไม่เหมาะสำหรับใช้ยาแนวประเภทนี้กับชิ้นส่วน หรืออุปกรณ์ที่มีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา เพราะจะทำให้ตัวยาแนวนั้น เกิดความเสียหาย แตกร้าว และไม่กันน้ำและความชื้น หมดคุณสมบัติการเป็นยาแนวไป หรือหากยาแนวผงบางประเภทนั้น ก็ไม่มีคุณสมบัติการป้องกันการเกิดเชื้อรา ทำให้เมื่อเกิดเชื้อราขึ้น ต้องทำการขัดหรือแซะออก ซึ่งทำได้ยาก ทำให้ยาแนวแบบผงนั้น เหมาะสำหรับการยาแนวร่องในแนวระนาบเรียบ เช่นกระเบื้องปูพื้น กระเบื้องแนวผนัง
ยาแนวแบบกระบอกพลาสติก(ยาแนวซิลิโคน)
ยาแนวแบบกระบอกพลาสติก(ยาแนวซิลิโคน) เป็นยาแนวที่มีลักษณะคล้ายยาสีฟัน เมื่อแห้งแล้วจะมีความยืดหยุ่นตัวสูง เหมาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์ที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเช่น อ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ตู้อาบน้ำหรือฉากกั้นอาบน้ำ โถสุขภัณฑ์ ซึ่งในแต่ละอุปกรณ์ที่กล่าวมานี้ รอยต่อมีการขยับตัวอยู่ตลอดเวลาเมื่อใช้งาน ดังนั้น ยาแนวซิลิโคนจึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการเติมลงในร่องที่เราต้องการ และถ้าหากเกิดเชื้อราขึ้น ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายหากทำได้ทันท่วงที หรือบางรุ่นนั้น จะมีการเพิ่มสารถต้านทานการเกิดเชื้อรา ทำให้เชื้อรานั้น ไม่สามารถฝังตัวลงในเนื้อยาแนวได้ ซึ่งเมื่อพูดถึงข้อดีแล้วนั้น ทำไมยาแนวที่เราใช้หรือพบเห็นในห้องน้ำทุกวัน ยังเป็นแบบผงอยู่ เพราะเนื่องจากว่า การติดตั้งยาแนวชนิดหลอดพลาสติก หรือยาแนวซิลิโคนนั้น จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์เฉพาะ และการเตรียมพื้นที่ติดตั้งที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นการติดเทปกาวเพื่อกันคราบที่เกิดจากการปาดยาแนว แนวการติดตั้ง หรือการทำความสะอาด เหล่านี้ ต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ หรือผู้ที่มีทักษะทางช่างมาพอสมควร และความสวยงามนั้น ขึ้นกับฝีมือของผู้ติดตั้งล้วน ๆ ดังนั้น การใช้ยาแนวซิลิโคน จึงมักนิยมใช้ในตำแหน่งที่มีการใช้งานบ่อย หรือร่องยาแนวที่มีการขยับตัวเนื่องจากการใช้งานอยู่ตลอดเวลา เช่น ตามมุมห้องน้ำ ข้อต่อก๊อกน้ำ ฐานของโถสุขภัณฑ์ อ่างอาบน้ำ ฉากกั้น และอื่น ๆ ที่มีการใช้งานบ่อย ๆ ส่วนพื้น ผนังห้องน้ำ เรามักจะใช้ยาแนวแบบผงแทนเพื่อความรวดเร็วและง่ายต่อการติดตั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.directsealants.com/waterproof-grout-vs-silicone/